กริยาช่วย ရ ဖူး และ မိ
กิริยาช่วยจะต้องวางหลังกิริยาหลักเท่านั้น กริยาช่วยบางตัวก็ทำหน้าที่เป็นกริยาหลักได้ด้วย จึงต้องดูตำแหน่งการวางเป็นสำคัญ
ရ "ได้... ต้อง... "
ถ้าเป็นกริยาหลักแปลว่า "ได้" หรือ "ได้รับ" แต่ ရ สามารถเป็นกริยาช่วยเพื่อแสดง การได้ทำ ได้เกิด ได้มี หรือ ต้องได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
ရယ်ရတယ် ။ "ขำ"
ဆီးသီးစားရတယ်။ ได้กินพุทรา
ကားစီးရတယ်။ ต้องได้โดยสาร
စာ ရေးရတယ်။ ต้องเขียนจดหมาย
ဆေးဝယ်ရတယ်။ ต้องซื้อยา
หากเกิดร่วมกับกริยาวิภัตติ တယ် จะมีความหมาย "จะต้อง" เช่น
သိရမယ်။ จะต้องรู้
ကား စီးရမယ်။ จะต้องโดยสาร
ဆေး ကုရမယ်။ จะต้องรักทางยา
စာ ရေးရမယ်။ จะต้องเขียนจดหมาย
သူ လာရမယ်။ เขาจะต้องมา
ဖူး เคย
သူ ကဖူးတယ်။ เขาเคยเต้น
သူ ကတိပေးဖူးတယ်။ เขาเคยสัญญา
သူ ဖားသားစားဖူးတယ် ။ เขาเคยกินเนื้อกบ
ငါးပိ စားဖူးသလား။ เคยกินกะปิไหม
မိ บังเอิญ... เผลอ.
ถ้าเป็นกริยาหลักแปลว่า "โดน" เช่น โดนฝน โดนลม พอเป็นกิริยาช่วยใช้ในความหมายไม่ตั้งใจ เทียบได้กับ "บังเอิญ" หรือ เผลอ เช่น
သူ ဖားသားစားမိတယ်။ เขา(บังเอิญ) กินเนื้อกบ
จากหนังสือ "เรียนรู้ ภาษาพม่า"
อรนุช นิยมธรรม
ม.นเรศวร
ရ "ได้... ต้อง... "
ถ้าเป็นกริยาหลักแปลว่า "ได้" หรือ "ได้รับ" แต่ ရ สามารถเป็นกริยาช่วยเพื่อแสดง การได้ทำ ได้เกิด ได้มี หรือ ต้องได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น
ရယ်ရတယ် ။ "ขำ"
ဆီးသီးစားရတယ်။ ได้กินพุทรา
ကားစီးရတယ်။ ต้องได้โดยสาร
စာ ရေးရတယ်။ ต้องเขียนจดหมาย
ဆေးဝယ်ရတယ်။ ต้องซื้อยา
หากเกิดร่วมกับกริยาวิภัตติ တယ် จะมีความหมาย "จะต้อง" เช่น
သိရမယ်။ จะต้องรู้
ကား စီးရမယ်။ จะต้องโดยสาร
ဆေး ကုရမယ်။ จะต้องรักทางยา
စာ ရေးရမယ်။ จะต้องเขียนจดหมาย
သူ လာရမယ်။ เขาจะต้องมา
ဖူး เคย
သူ ကဖူးတယ်။ เขาเคยเต้น
သူ ကတိပေးဖူးတယ်။ เขาเคยสัญญา
သူ ဖားသားစားဖူးတယ် ။ เขาเคยกินเนื้อกบ
ငါးပိ စားဖူးသလား။ เคยกินกะปิไหม
မိ บังเอิญ... เผลอ.
ถ้าเป็นกริยาหลักแปลว่า "โดน" เช่น โดนฝน โดนลม พอเป็นกิริยาช่วยใช้ในความหมายไม่ตั้งใจ เทียบได้กับ "บังเอิญ" หรือ เผลอ เช่น
သူ ဖားသားစားမိတယ်။ เขา(บังเอิญ) กินเนื้อกบ
จากหนังสือ "เรียนรู้ ภาษาพม่า"
อรนุช นิยมธรรม
ม.นเรศวร
Comments
Post a Comment